วันพฤหัสบดีที่ 24 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

Google Adsense ที่ผิดกฎ ติด Adsense แบบนี้โดนแบนแน่ๆ

1. Encouraging Accidental Clicks : Formatting links to mimic ads คือ การวาง Adsense ที่ทำให้เกิดความสับสน หรือ ไม่สามารถแยกออกได้ชัดเจน ระหว่าง Adsense และ Menu Bar , Navigation Bar หรือ Download Link จากรูปจะเห็นว่ามีการนำ Adsense แบบ Link Unit มาติดไว้ ที่ Menu ของเวป ทำให้มีการ คลิกผิด โดยที่ คนคลิก คิดว่า มันจะเป็นลิงค์ไปที่หน้าอื่น ของเวปไซต์นี้ ซึ่ง รูปแบบนี้ อาจจะหมายถึงการใช้ Link Unit แบบแนวนอน เอาๆไปวาง เป็น Navigation Bar ของเวป (Navigation Bar แถบเมนู สีน้ำเงิน ด้านบนของ Thaiseoboard ค๊ะ)
สามารถดู เนื้อหาฉบับภาษาอังกฤษ จาก Google Adsense ได้ที่นี่
โค๊ด:
https://www.google.com/adsense/support/bin/answer.py?hl=en&answer=136901
2. Leading to accidental clicks คือ การติด Adsense ที่นำมาสู่การคลิกผิด accidental clicks การกดพลาด เช่น วาง Adsense ไว้ใต้ลิงค์ ซึ่ง สามารถทำให้คนที่ต้องการจะกดที่ลิงค์ ของ Website กดพลาด ไปโดนส่วนของ Google Adsense แทน
สามารถดู เนื้อหาฉบับภาษาอังกฤษ จาก Google Adsense ได้ที่นี่
โค๊ด:
https://www.google.com/adsense/support/bin/answer.py?hl=en&answer=115985
3. Unnatural Attention คือ การติด Adsense ไว้ใกล้รูปภาพ หรือ สิ่งที่เป็นการชี้นำให้คลิก ดังรูปตัวอย่าง เป็นลูกศรที่ชี้มาที่ Google Adsense ในที่นี้ยังรวมถึง Icon หรือ รู)ภาพ ที่เป็น Point คือ ชี้เป้า ประมาณนั้น เช่น นิ้วมือ ชี้ไปที่ Adsense , ลูกศร , เป็นต้น
สามารถอ่านรายละเอียดฉบับภาษาอังกฤษ จาก Google Adsense ได้ที่นี่
โค๊ด:
https://www.google.com/adsense/support/bin/answer.py?hl=en&answer=115985
4. Aligning images with ads คือการติด Adsense ไว้ใกล้รูป วิธีนี้ เป็นที่นิยมมากๆ ค๊ะใ นสมัยก่อน ที่ Google จะออกกฎห้าม วาง Adsense ไว้ใกล้รูปมา ซึ่งการวาง Adsense ไว้ใกล้รูปภาพนั้น ได้รับการพิสูจน์มาแล้ว ว่ามันช่วยให้คนคลิก Google Adsense เยอะขึ้นมากๆ ค๊ะ มาตอนหลัง Google พิจารณาแล้วว่า การติด Adsense แบบนี้นั้น ทำให้เกิดความเข้าใจผิดว่า Adsense เป็นลิงค์ที่เกี่ยวข้องกับรูปภาพนั่นเอง ซึ่งผู้ลงโฆษณาจะเสียประโยชน์ ในส่วนของทราฟฟิกที่ไม่มีคุณภาพ เลยทำการออกกฎห้ามค๊ะ
สามารถอ่านเนื้อหาฉบับภาษาอังกฤษ จาก Google Adsense ได้ที่นี่
โค๊ด:
https://www.google.com/adsense/support/bin/answer.py?hl=en&answer=105960
5. Placing ads under a misleading heading คือ การติด Google Adsense ไว้ใต้ Title , หรือ ข้อความที่อาจทำให้เกิดการคลิก เช่น ดังตัวอย่าง Google ยกตัวอย่างการที่วาง Adsense ไว้ใต้คำว่า My Favorite Site ซึ่ง ทำให้ผู้อ่นในเวป คลิกเข้าไปอ่าน เพราะคิดว่านี่เป็นคำแนะนำจากเจ้าของเว็ปไซต์ ว่าลิงค์เหล่านี้ คือเวปที่เค้าชอบนั่นเอง
สามารถดู เนื้อหาฉบับภาษาอังกฤษ จาก Google Adsense ได้ที่นี่
โค๊ด:
https://www.google.com/adsense/support/bin/answer.py?hl=en&answer=136881
6. Site layout that pushes content below the fold คือ การวาง Google Adsense ในส่วนบนของเวปไซต์ เมื่อคนเปิดเข้ามาที่เวปไซต์ จะเห็นแค่ Adsense แสดงอยู๋เท่านั้น ทั้งๆ ที่ความจริงแล้ว ในหน้านี้มีส่วนของเนื้อหาอยู๋เช่นกัน แต่จำเป็นที่จะต้องมีการ เลื่อนหน้าลงไปด้านล่าง จึงจะเห็นเนื้อหาของเว็ปไซต์ จากรูปด้านซ้าย คือ หน้า Webpage ทั้งหมด ด้านซ้าย คือ หน้า Webpage ที่ คนเข้ามาแล้วเห็นเป็นอย่างแรก
สามารถดู เนื้อหาฉบับภาษาอังกฤษ จาก Google Adsense ได้ที่นี่
โค๊ด:
http://www.google.com/adsense/support/bin/answer.py?hl=en&answer=177526
7. Formatting content to mimic ads คือ การติด Adsense ให้ดูกลมกลืนไปกับ Text Link จากรูปจะเห็นว่า ด้านบนของ Google Adsense มีลิงค์อยู่ ทั้งหมดสามลิงค์ ซึ่งทั้งสามลิงค์ นั้นถูกออกแบบมาให้ดูคล้ายกับ Google Adsense ทั้งสี และ ส่วนของ URL (สีเขียว) ซึ่งการติด Adsense แบบนี้ Google บอกว่าผิดค๊ะ
สามารถดู เนื้อหาฉบับภาษาอังกฤษ จาก Google Adsense ได้ที่นี่
โค๊ด:
https://www.google.com/adsense/support/bin/answer.py?hl=en&answer=136882
8. Ads shouldn’t be placed under a title or section heading in a way that implies that the ads are not ads. มันแปลได้ว่า Adsense ต้องไม่ถูกวางใต้ Title หรือ หัวข้อ ที่ทำให้ Adsense ถูกมองว่า ไม่ใช่ ข้อความโฆษณา การติด Adsense แบบนี้ มักพบเห็นได้ทั่วไป และเป็นที่ถกเถียงกัน ว่าติด Adsense ไว้ด้านล่าง -ข้างใต้ ของ Post Title ได้หรือไม่ มีหลายๆ คนที่ติด แล้วโดนแบน แต่ก็มีหลายคนที่ติดแล้ว ไม่โดน Asense แบนแต่อย่างใด ซึ่งสาเหตุ จริงๆ แล้วนั้น ไม่ได้อยู่ที่ว่ามันเป็น Title ของบทความ หรือ ไม่ค๊ะ มันอยู่ที่เนื้อหา ของ Title นั้น ตามที่ Google บอกว่า ห้ามทำให้ Ads ดูไม่ข้อความโฆษณา
ซึ่ง Google ได้ยกตัวอย่าง Title ตามรูปค๊ะ คือ Title คือ Today’s Hot Deals ซึ่งใครเห็น Title ก็อาจจะทำให้คิดว่า Adsense ที่อยู่ด้านล่างนี้เอง คือ ลิงค์ที่เป็น Hot Deals อย่างที่ Title บอก จริงมั้ยค๊ะ ซึ่งคนตัดสินว่าผิดไม่ผิด คือ เจ้าหน้าที่ของ Google Adsense ทางที่ดี เราป้องกันไว้ก่อนดีกว่าค๊ะ อย่าติดในจุดล่อแหลมนี้เลย
สามารถดู เนื้อหาฉบับภาษาอังกฤษ จาก Google Adsense ได้ที่นี่
โค๊ด:
http://adsense.blogspot.com/2008/03/another-look-at-optimizations.html
9.Ads should be easily distinguishable from surrounding content อันนี้ก็คล้ายกับ ที่ได้มีการกล่าวไปแล้วด้านบนค๊ะ คือ พยายามติด Adsense รวมไว้ในกลุ่มของ Link แบบนี้ ผิดแน่ๆ ค๊ะ
สามารถดู เนื้อหาฉบับภาษาอังกฤษ จาก Google Adsense ได้ที่นี่
โค๊ด:
http://adsense.blogspot.com/2008/03/another-look-at-optimizations.html
อันนี้เป็นแนวทางในการติด Google Adsense ในเวป ให้ปลอดภัย ของผิงค๊ะ wanwan019
1. ไม่ติด Adsense ใกล้รูปภาพค๊ะ
2. ไม่ติด Adsense ใกล้ส่วนที่เป็น ลิงค์ หรือ Text Link ต่างๆ ของเราค๊ะ
3. ไม่ติด Adsense ตรงส่วนของพื้นที่ ที่มันควรจะเป็น ที่ๆ ใช้วางส่วนองค์ประกอบอื่นๆ ของเวป เช่น Menu Bar , Menu , หรือ Sidebar ค๊ะ
4. คนเข้าเวปมาต้องเห็น Adsense ชัดเจนค๊ะ คือ อ่านแล้ว ถึงคลิก Adsense จะถามตัวเองทุกครั้ง ถ้าเป็นเรา จะตั้งใจคลิกเพื่อดูข้อมูลด้านในจริงๆ มั้ย และห้ามมีอะไร มาบังส่วนใดส่วนนึง ของ Adsense เด็ดขาดค๊ะ
ลองเอาไปปรับใช้ดูนะค๊ะ รับรองปลอดภัย ไม่ต้องมากังวลเรื่องโดน Google Adsense แบน Account อีกแล้วค๊ะ Post หน้าพบกับ วิธีติด Adsense ให้ได้ CTR สูงๆ แบบไม่ผิดกฎ Google ค๊ะ
ขอขอบคุณคุณ Ping-O-Matic ด้วยนะครับ ที่เอาความรู้ในการติด Adsense มาแชร์พวกเรา

วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2554

การทำงานกับ Google ได้เงินจริงมี



การทำงานกับ Google ได้เงินจริงมี

   หลังจากที่ได้ลองผิดลองถูก กับการหาเงินทางอินเทอร์เน็ตมาหลายรูปแบบหลายป ี นับเป็นประสบการณ์อันคุ้มค่าที่ทำให้ผมฉลาดขึ้น (จากการโง่ไปหลายๆ ครั้ง) โดนหลอกมาก็พอสมควร จนสามารถบอกได้ว่า อะไรหลอกหลวง อะไรทำแล้วได้เงินจริงๆ อะไรทำแล้วได้ไม่คุ้มค่าเหนื่อย (ตัวอย่างโฆษณาที่ชวนเชื่อ ที่ผมเคยทำมาแล้ว แต่ไม่ได้ผลจริงเช่น การเช็คเมล์แล้วได้เงิน ซึ่งจะมีอะไรแอบแฝงมากับเมล์มากมายด้วย เครื่องคอมผมเดี้ยงไปหลายครั้งกับการเช็คเมล์นี้ หรือการหลอกล่อให้ซื้อของก่อน เพื่อเป็นการต่อยอดให้ธุรกิจของเขาอยู่ได้ หรือการใช้โปรแกรมเปิดอินเทอร์เน็ตทิ้งไว้แล้วได้เงิน ฯลฯ เสียทั้งเวลา เสียทั้งค่าไฟ พูดแล้วไม่อยากรื้อฟื้นความหลัง...มันเศร้าใจ...แค้นใจ)
จึงอยากจะแบ่งปันประสบการณ์ที่ผ่านมาหลายปี ที่ทำแล้วได้ผลดีเกินคาด เริ่มต้นจาก 0 (ศูนย์) จนสามารถทำเงินได้วันละหลายเหรียญ $ (ดอลล่าร์) เพียงแต่คุณ "ทำงานให้งานทำเงิน" (แม้ว่าคุณจะทำอะไรอยู่ ก็สามารถทำเงินได้ เช่น อ่านหนังสืออยู่, นอนเล่น, ดูทีวีอยู่, ฟังเพลง ฯลฯ) งานที่คุณลงมือทำไปแล้วก็ยังคงดำเนินต่อไป


   หลายคนอาจจะถามว่า...มันจะเป็นไปได้หรือ? หลอกลวงกันหรือเปล่า?...ทำไมได้กันง่ายๆ ล่ะ? ร้อยแปดคำถามที่อยู่ในใจคุณ จะหมดสิ้นไป ถ้าได้รู้จักกับ Google AdSense เจ้าพ่อแห่งวงการ Search Engine ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโลก มีความน่าเชื่อถือมากที่สุด
กับหลักการที่ผมสนใจมากที่สุดคือ "วิธีการหาเงินฟรีๆ ทางอินเทอร์เน็ต" มาสร้างเป็นรายได้โดยที่ไม่ต้องลงทุกสักบาทเดียว...นั่นคือหลักการที่คุณจะได้เรียนรู้ เรียกว่า ."กลยุทธ์จับเสือมือเปล่า"
หากคุณพร้อมที่จะเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ที่จะเปลี่ยนอนาคตคุณให้ดีขึ้น โดยที่
   1. ไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ ทั้งสิ้น
   2. ไม่ต้องเสียเวลาเข้าอบรม
   3. ไม่ต้องเสียค่ารถค่าเรือเดินทาง
   4. ไม่ใช่การซื้อของ
   5. ไม่ใช่การขายของ
   6. ทุกขั้นตอนการทำฟรีหมด พร้อมคำแนะนำอย่างละเอียดยิบ ไม่มีกั๊ก ไม่มีหวงความรู้ เผยแพร่จากประสบการณ์ตรงเพื่อเป็นวิทยาทาน
   7. คุณเป็นเจ้าของ 100% (สามารถพัฒนาต่อไปได้เรื่อยๆ ตามความต้องการ)
   8. สามารถพิสูจน์เห็นผลได้จริง ฯลฯ

Step 1_1 ทำความรู้จักกับ Google AdSense



Step 1_1 ทำความรู้จักกับ Google AdSense

ใน Step 1_1 นี้ จะได้ทำความรู้จักกับ Google AdSense อย่างละเอียดยิบ โดยที่ไม่ต้องไปหาตำรามาจากที่ไหน เพราะความรู้ต่างๆ จากประสบการณ์ตรง และจากการค้นคว้าหาข้อมูลต่างๆ จากการอ่านปัญหาของผู้ที่ทำ AdSense ได้รวบรวมไว้มากที่สุดเท่าที่จะมากได ้สำหรับผู้ต้องสร้างธุรกิจ Online โดยได้แบ่งออกเป็น 4 หัวข้อย่อยให้ได้ศึกษากันครับ


รายละเอียดเกี่ยวกับ Google AdSense


1. Google AdSense คืออะไร?


2. รูปแบบโฆษณาของ Google AdSense


3. รายได้จาก Google AdSense เกิดขึ้นตอนไหน? อย่างไร?


4. กฎ กติกา ข้อห้ามและระเบียบการของ Google AdSense


Google AdSense คืออะไร?


Google AdSense คือ บริการหนึ่ง จาก www.Google.com ที่เปิดโอกาสให้กับผู้ที่มีเว็บไซต์/บล็อก(Blog) (ศึกษาวิธีการสร้างเว็บไซต์/บล็อกได้ใน Step # 2 ง่ายๆ ฟรีๆ) สามารถสร้างรายได้ โดยการนำโฆษณาของ Google มาใส่ไว้ที่เว็บไซต์/บล็อก ของเรา ซึ่งโฆษณาต่างๆ ของ Google.com จะเป็นโฆษณาที่มีเนื้อหาสอดคล้องกับเนื้อหาของเว็บไซต์/บล็อก ของคุณ ตัวอย่าง เช่น ถ้าเว็บไซต์/บล็อก ของคุณเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวกับเกมส์ โฆษณาที่ทาง Google จะส่งมาก็จะเป็นเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับ เครื่องเล่นเกมส์, เล่นเกมส์ออนไลน์, ดาวน์โหลดเกมส์ เป็นต้น


โฆษณาของ Google AdSense มีหลายรูปแบบ อาทิ เช่น แบบ Text(ตัวอักษร), แบบรูปภาพ และ รูปแบบตัวอักษรหรือรูปภาพ และยังมีสามารถเลือกขนาดของโฆษณาได้ รวมถึงสีสันของโฆษณาได้ตามต้องการ เพื่อความสวยงาม และลงตัว เหมาะสมกับเว็บไซต์/บล็อกของคุณได้อีกด้วย


แล้วโฆษณาต่าง ๆ เหล่านั้นมาจากไหน ??? หลายคงอาจสงสัย โฆษณาต่าง ๆ เหล่านั้นมาจากการทำ Google Adwords ซึ่งเป็นอีกบริการหนึ่งของ Google.com ที่ให้ผู้ประกอบการต่าง ๆ หรือ ผู้ที่ต้องการขายสินค้าหรือบริการต่าง ๆ มาลงโฆษณาโดยผ่านระบบค้นหา หรือ Search Engine ของ Google รวมถึงเว็บไซต์อื่นๆ ที่ไปนำ Google AdSense มาใช้ อย่างที่พวกเรากำลังทำอยู่ เพื่อให้โฆษณาของผู้ประกอบการปรากฎตรงกับกลุ่มเป้าหมาย และอยู่ในตำแหน่งที่เด่นที่สุด (เมื่อ Search ใน Google) ซึ่งทำให้เกิดผู้เยี่ยมชมของผู้ประกอบการสูงขึ้น ก็ย่อมมีโอกาสสร้างยอดขายได้สูงมากยิ่งขึ้นอีกด้วย


สรุปหลักการง่ายๆ คือ : Google AdSense เป็นวิธีหาเงินง่ายๆ ด้วยเว็บไซต์/บล็อก โดยการนำโฆษณาที่ได้จาการสมัคร AdSense มาวางไว้ที่หน้าเว็บไซต์/บล็อกของคุณ เพื่อให้ผู้ชมเข้ามาดูหรือเข้ามาคลิก คุณก็ได้เงินทุกๆ ครั้งที่มีการคลิกโฆษณาหรือแสดงโฆษณานั้น แม้จะไม่มีการซื้อขายใดๆ เกิดขึ้นก็ตาม ยิ่งมีผู้เข้ามามากและคลิกที่โฆษณามาก คุณก็ได้เงินมากตามไปด้วย


หลักการก็มีง่ายๆ แค่นี้เองครับ พร้อมที่จะเรียนรู้เพิ่มเติมหรือยังครับ ?
พักทานน้ำเย็นๆ สักแก้ว แล้วเรียนรู้การทำเงินออนไลน์เพิ่มเติม คลิกด้านล่างนี้เลยครับ


รูปแบบโฆษณาของ Google AdSense


สามารถจำแนกประเภทของโฆษณาของ Google AdSense แบ่งออกตามใช้งานอยู่ 3 รูปแบบ ดังนี้


• AdSense for Content
• AdSense for Search
• Referrals


• AdSense for Content จำแนกออกไปอีกได้ 3 ชนิดดังนี้
   1. รูปแบบการแสดงโฆษณา แบบตัวอักษร
   2. รูปแบบการแสดงโฆษณา แบบรูปภาพ
   3. รูปแบบการแสดงโฆษณา แบบลิงค์ เมนู หรือ หัวข้อเว็บไซต์




1. รูปแบบการแสดงโฆษณา แบบตัวอักษร ( Text Ads )
รูปแบบการแสดงโฆษณา แบบตัวอักษร เป็นรูปแบบโฆษณาแบบมีข้อความตัวอักษร เป็นโฆษณาสามารถทำให้ดูเสมือนเป็นเนื้อหาของเว็บไซต์ ซึ่งโฆษณารูปแบบนี้ เป็นที่นิยมมากสำหรับเว็บไซต์ต่างๆ เพราะ ทำให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์คิดว่าเป็นเนื้อหาเว็บไซต์ โดยอาจจะไม่ทราบเลยก็ได้ว่าได้คลิกโฆษณาไปแล้วก็เป็นได้ และรูปแบบการแสดงโฆษณาแบบตัวอักษรสามารถทำเงินให้กับเว็บไซต์ได้เป็นจำนวนมากเลยทีเดียว!


เราสามารถเลือกรูปแบบ/ขนาด ปรับสีได้ตามต้องการ


2. รูปแบบการแสดงโฆษณา แบบรูปภาพ ( Image Ads )
รูปแบบการแสดงโฆษณาแบบรูปภาพ เป็นรูปแบบโฆษณาที่แสดงผลเป็นรูปภาพ หรือ แบนเนอร์ นั้นเอง เป็นโฆษณาที่ทำให้เว็บไซต์มีสีสันสวยงาม ไม่ใช่ทั้งเว็บไซต์มีแต่ตัวหนังสือแต่เพียงอย่างเดียว เท่านั้น


เราสามารถเลือกรูปแบบ/ขนาดได้ตามต้องการ


3. รูปแบบการแสดงโฆษณา แบบลิงค์ เมนู หรือ หัวข้อเว็บไซต์ ( Link Units )
รูปแบบการแสดงโฆษณา แบบลักษณะเมนู หรือ ข้อหัวต่างๆ ของเว็บไซต์ ซึ่งมองดูผ่านๆ เหมือนเป็นเมนู หรือ หัวข้อของเว็บไซต์ โฆษณาแบบลิงค์นี้มีให้เลือก 2 แบบ คือ แบบแนวนอน และแบบแนวตั้ง ทั้ง 2 แบบ สามารถเลือกได้ว่า จะให้แสดงโฆษณาแบบลิงค์ 4 หัวข้อโฆษณา หรือ 5 หัวข้อโฆษณา ก็ได้เช่นกัน




• AdSense for Search รูปแบบกล่องค้นหา (Search Box)
เป็นกล่องค้นหาของ Google Search




• Referrals เป็นการแนะนำบริการต่างๆ ของ Google


การแนะนำ บริการต่าง ๆ ของ Google เมื่อมีคนใช้บริการ คุณก็จะมีรายได้จากการแนะนำ
สำหรับ Referrals มีตัวเลือก 5 ตัวย่อย คือ
   - Google AdSense
   - Google AdWord
   - FireFox
   - Google Apps
   - Google Checkout


ได้ทำความรู้จักกับรูปแบบโฆษณาต่างๆ ที่จะทำเงินให้เราแล้ว ในลำดับต่อไปเราจะมาศึกษากันว่า รายได้จากการทำ AdSense นั้น เกินขึ้นได้ตอนไหน? และอย่างไร???


หากเหนื่อยนักก็พักสายตาก่อน...ดื่มน้ำเย็นๆ สักแก้ว แล้วเข้าสู่การเรียนรู้การสร้างเงินลำดับต่อไป คลิกด้านล่างนี้เลยครับ.

Step 1_2 รายได้เกิดขึ้นตอนไหน? อย่างไร?

Step 1_2 รายได้เกิดขึ้นตอนไหน? อย่างไร?

ผลตอนแทนจาก Google AdSense
มีวิธีคำนวณรายได้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ดังนี้
 1. ผลตอบแทนจาก โฆษณาที่เกี่ยวข้องเนื้อหาของเว็บไซต์
 2. ผลตอบแทนจาก การค้นหาเว็บไซต์
 3. ผลตอบแทนจาก การแนะนำ

 1. ผลตอบแทนจาก โฆษณาที่เกี่ยวข้องเนื้อหาของเว็บไซต์ (AdSense for Content)
ผลตอบแทนจากโฆษณาที่เกี่ยวข้องเนื้อหาของเว็บไซต์ เป็นผลตอบแทนจากโฆษณาที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้อง และกลมกลืนกับเนื้อหาในเว็บไซต์ เช่น เว็บไซต์เกี่ยวกับวิธีการหาเงินทางอินเทอร์เน็ต ก็จะมีโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับรูปแบบการทำงานหาเงินทางอินเทอร์เน็ต ก็คือ เว็บไซต์มีเนื้อหาเกี่ยวกับอะไรโฆษณาก็เป็นโฆษณาเหมือนกับเนื้อหาในเว็บไซต์ นั่นเอง

วิธีคำนวณผลตอบแทน
    1.1 จ่ายผลตอบแทนเมื่อคลิก ( Pay Per Click - PPC )
ผลตอบแทนจากการคลิกโฆษณา เมื่อผู้เยี่ยมเว็บไซต์ได้คลิกที่โฆษณาของ Google ทำให้เว็บไซต์ได้รับผลตอบแทนทันทีเมื่อคลิก โดยแต่ละโฆษณาที่คลิกจะได้รับผลตอบแทนไม่แน่นอน ผลตอบแทนมาก หรือน้อย นั้นขึ้นอยู่กับผู้ที่ลงโฆษณากับ Google Adwords ว่าลงโฆษณาได้ในราคาที่สูง หรือต่ำ ถ้าหากลงโฆษณาในราคาสูงไว้ ผลตอบแทนจากคลิกโฆษณานั้นก็สูงตามไปด้วยเช่นกัน แต่ถ้าในทางกลับกัน ถ้าได้ลงโฆษณาในราคาต่ำ ผลตอบแทนจากคลิกโฆษณานั้นก็ย่อมได้น้อยด้วยเช่นกัน นั่นเอง

    1.2 จ่ายผลตอบแทนเมื่อแสดงโฆษณา ( Pay Per Impression - CPM )
ผลตอบแทนเมื่อแสดงโฆษณา ทุกครั้งเมื่อมีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์ที่มีโฆษณาของ Google ก็จะเกิดรายได้จากการแสดงโฆษณา โดยมีเงื่อนไขอยู่ว่า จะนำมาคำนวณรายได้ก็ต่อเมื่อมีการแสดงโฆษณา ครบ 1,000 ครั้ง แต่จะต้องมีผู้เยี่ยมชมคลิกโฆษณาด้วย โดยไม่นับว่าจะมีคนคลิกกี่ครั้งก็ตาม หรือ ที่เรียกว่า Cost Per Thousand Impression (CPM)

สรุป รายได้จากการแสดงโฆษณานี้จะโดยมีหลักเกณฑ์ ดังนี้
    1. แสดงโฆษณา ครบ 1,000 ครั้ง
    2. ต้องมีผู้เยี่ยมชมคลิกโฆษณาด้วย ถ้าหากไม่มีผู้คลิกโฆษณาเลย รายได้นี้ก็ยังไม่คิดให้จนกว่าจะมีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์คลิกโฆษณาด้วยเท่านั้น

 2. ผลตอบแทนจาก การค้นหาเว็บไซต์ (AdSense for Search)
ค้นหาแล้ว จะพบรายชื่อเว็บไซต์โฆษณาอยู่ในตำแหน่งสปอนเซอร์ ซึ่งอยู่ด้านบน และด้านล่างของหน้าผลลัพธ์ที่ได้ค้นหา ถ้าผู้เข้าชมคลิกโฆษณาในตำแหน่งดังกล่าว เว็บไซต์เราก็จะได้รับรายได้ มีตัวอย่างกล่องค้นหาเว็บไซต์ที่สามารถใช้งานได้จริง โดยผลตอบแทนก็คิดคำนวณเหมือนกับ ข้อ 1.1 และ ข้อ 1.2

 3. รายได้ของโฆษณาจากการแนะนำบริการ (Referrals)
นอกจากนี้ Google AdSense ยังให้โอกาสการสร้างรายได้จากโฆษณา แบบแนะนำบริการต่างๆ ของ Google อีกด้วย ก็คือ เมื่อมีผู้เยี่ยมชมเว็บไซต์คลิกโฆษณาแนะนำบริการ และได้ใช้บริการนั้นๆ คุณก็ได้รับรายได้อีกด้วย ได้แก่

    3.1 แนะนำสมัคร Google AdSense
คุณจะได้รับรายได้เมื่อมีคนมาลงทะเบียนเป็นสมาชิก Google AdSense โดยคลิกโฆษณาจากเว็บไซต์ของคุณ และผู้สมัครคนนั้น ทำรายได้เกิน $5 ภายใน 180 วัน นับจากวันสมัคร คุณก็จะได้รับ $5 ด้วยเช่นกัน และ ถ้าผู้สมัครคนนั้น ทำรายได้ครบ $100 ภายใน 180 วัน นับจากวันสมัคร คุณก็จะได้รับ $250 อีก ถ้าผู้สมัครคนนั้น ภายในช่วงระยะเวลา 180วัน หรือ ครึ่งปี

ถ้าคนที่สมัครผ่านจากการแนะนำของคุณ 25 คน แล้วทำได้เกิน $100 ภายใน 180 วัน นับจากวันสมัคร คุณจะได้รับโบนัส $2,000 (โดย bonus limit แค่ครั้งเดียวต่อ1ปี หรือหมายถึงถ้าเราหาได้ 50 คนแล้ว 50 คนทำได้หมดเราก็ได้ bonus แค่ 25คนแรกนั้น)

    3.2 แนะนำสมัคร Google AdWords
คุณจะได้รายได้เมื่อมีคนมาลงทะเบียนเป็นสมาชิก เพื่อใช้บริการ Google AdWords โดยคลิกโฆษณาจากเว็บไซต์ของคุณ และผู้สมัครคนนั้น ใช้บริการของ Google AdWords $5 ภายใน 90 วัน นับจากวันสมัคร คุณจะรับรายได้ $5 และ ผู้สมัครคนนั้น ใช้บริการของ Google Adwords $100 ภายใน 90 วัน นับจากวันสมัคร คุณจะได้รับ $40 ถ้าภายในช่วงระยะเวลา 180 วัน หรือ ครึ่งปี

ถ้าคนที่สมัครผ่านการแนะนำของคุณ 20 คน ใช้บริการของ Google Adwords $100 ภายใน 180 วัน นับจากวันสมัคร คุณจะได้รับโบนัสจาก Google จำนวน $600 (โดย bonus limit แค่ครั้งเดียวต่อ1ปี หรือหมายถึง ถ้าเราหาได้ 40 คน แล้วใช้บริการของ Google Adwords ได้ตามเป้าทุกคน คุณจะรับได้โบนัส 20 คนเท่านั้น)

    3.3 Firefox : ดาวน์โหลด ฟรี!
โปรแกรมท่องอินเตอร์เน็ตได้เร็วกว่า Internet Explorer และมีระบบรักษาความปลอดภัยที่ดีอีกด้วย
คุณจะได้รายได้เมื่อมีคนมาคลิกโฆษณาจากเว็บไซต์ของคุณ และดาวน์โหลดโปรแกรมไปใช้ โดยจะต้องเป็นการดาวน์โหลดครั้งแรก ก็คือไม่เคยดาวน์โหลดโปรแกรมไปใช้มาก่อน ซึ่งทาง Google ก็จะมอบรายได้จากการแนะนำของคุณ จำนวน $1 ทันที

    3.4 Google Apps
Google Apps คือระบบที่เหมาะสำหรับองค์กรธุรกิจ โรงเรียน มหาวิทยาลัย ซึ่งในระบบจะมีบริการต่างๆที่สมาชิกในกลุ่มใช้ได้ เช่น อีเมลล์ ระบบการการสนทนาผ่าน Instant Massaging ระบบปฎิทิน ที่ทุกคนสามารถเข้าไปใช่ร่วมกันได้ เพื่อเป็นการแลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่างภายในสมาชิก ระบบทั้งหมด Google เป็นผู้ให้บริการ โดยที่คุณไม่ต้องลงทุนอุปกรณ์และค่าซอฟท์แวร์แต่อย่างใด รวมถึงไม่ต้องเสียค่าบำรุงรักษา

คุณจะได้รับ $5 จากที่มีผู้สนใจคลิกโฆษณา Google Apps ผ่านเว็บไซด์ของคุณและได้ทำการลงทะเบียนอย่างเสร็จสมบูณณ์ อย่างไรก็ตามหากผู้ที่สนใจไม่ได้สมัคร Google Apps ทันทีก็ตามระบบจะเก็บขอมูลการคลิกโฆษณา Google Apps จากเว็บไซด์ของคุณต่ออีกเป็นเวลา 4 สัปดาห์ นั่นหมายถึงเขาอาจจะสมัครหลังจากนั้นก็ได้ แล้วคุณก็ยังได้รับรายได้อยู่

    3.5 Google Checkout
Google Checkout คือระบบการจับจ่ายซื้อสินค้าที่สะดวก ปลอดภัยและรวดเร็ว ด้วยระบบการรับชำระของ Google Checkout คุณสามารถทำรายการสั่งซื้อและจ่ายค่าสินค้าตลอดจนตรวจสอบรายการ การสั่งซื้อหรือการจ่ายค่าสินค้าได้ด้วยตัวเองผ่านหน้าเว็บไซด์

คุณจะได้รับ $1 ถ้ามีผู้ที่สมัครบัญชี Google Checkout ผ่านการแนะนำจากเว็บไซด์ของคุณ และได้ทำรายการสั่งซื้อสินค้าภายใน 90 วันและรายการทุกอย่างเสร็จสมบูรณ์จนการชำระค่าสินค้าเสร็จสิ้น โดยมูลค่าของสินค้าต้องมีมูลค่า $10 ขึ้นไป ก่อนที่รวมภาษีและค่าขนส่ง ภายใน 7 วัน

เมื่อคุณต้องการ Ads ตัวไหนไปติดที่เว็บ/บล็อกของคุณก็ให้คลิกไปที่ Ads นั้น ๆ แล้วทำตามขั้นตอนที่ Google แนะนำ เมื่อได้ code ก็นำไปติดไว้ที่เว็บของคุณ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามแก้ไข Code นั้น ๆ โดยเด็ดขาด

เป็นอย่างไรกันบ้างครับ กับการเรียนรู้ว่า รายได้เกิดขึ้นได้ตอนไหน? และอย่างไร? ไม่ยากเกินไปใช่มั้ยครับ กับวิธีการหาเงินวิธีนี้ ไม่ต้องขายสินค้าเพียงแค่เห็นโฆษณาที่เราทำ ก็ได้เงินแล้ว และยิ่งถ้ามีการคลิ๊กที่โฆษณา เราก็ยิ่งได้เพิ่มมากขึ้นครับ

หากเหนื่อยนัก ก็พักดื่มน้ำเย็นๆ สักแก้ว...แล้วค่อยลุยกันต่อ กับการสร้างเงิน Online ด้วยตัวคุณเอง กับบทเรียนที่ไม่มีสอนที่ไหน มาจากประสบการณ์ตรง โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย ฟรีๆ แบบพี่ๆ น้องๆ แบ่งๆ กันมีเงินใช้

Step 1_3 กฎ กติกา และระเบียบการข้อห้ามของ Google AdSense

Step 1_3 กฎ กติกา และระเบียบการข้อห้ามของ Google AdSense

ในส่วนนี้นับเป็นสิ่งสำคัญที่ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับ กฎ กติกา ข้อห้าม และระเบียบการต่างๆ ของ Google AdSense ที่ควรศึกษาให้ดี ก่อนที่จะสายเกินไป

นับเป็นหัวข้อสำคัญมากที่สุด การทำ Google AdSense ห้าม โกง หรือ ทำผิดกฎ กติกา ของ Google อย่างเด็ดขาด เพราะ ถ้าหากคุณถูกแบนจาก Google AdSense คุณจะไม่สามารถสมัครชื่อเดิม นามสกุลเดิม เว็บไซต์เดิมได้อีก ดังนั้นอย่าคิดค้นหาวิธีเพื่อโกง เพราะ ทาง Google มีผู้เชี่ยวชาญคอยตรวจสอบอยู่จึงไม่รอดแน่นอน ทางคิดจะโกง มีตัวอย่างมาเยอะแล้ว ทางที่ดีที่สุด ขอให้ทำอย่างถูกวิธีจะไม่ได้ไม่สูญเสียเงินรายได้ และไม่เสียเวลาอีกด้วย ขอเตือนไว้ก่อนเพื่อความปลอดภัยไว้ก่อน จะได้ไม่มีปัญหาทีหลัง

เข้าเรื่องเลยดีกว่า กฎ กติกา ของ Google AsSense มีดังนี้

ในการสมัคร Google AdSense ครั้งเดียว(วิธีการสมัครจะได้เรียนรู้ใน Step #3 ต่อไป) เราสามารถนำโฆษณาไปวางในเว็บไซต์ หลายๆ เว็บไซต์ได้ไม่จำกัดจำนวนเว็บไซต์ มากเท่าไหร่ก็ได้ จะร้อยเว็บไซต์ จะพันเว็บไซต์ก็ได้ แต่มีข้อห้ามดังนี้

ห้ามวาง Google AdSense ในเว็บไซต์ต้องห้าม ดังต่อไปนี้
  • เว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับสิ่งผิดกฎหมาย
  • เว็บไซต์การพนัน คาสิโน
  • เว็บไซต์ภาพลามก อนาจาร
  • เว็บไซต์ที่มีคำหยาบคาย
  • เว็บไซต์กลุ่มต่อต้าน หรือ องค์กรที่ใช้ความรุนแรง หรือ ก่อการร้าย
  • เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับ Hacking หรือ Cracking
  • เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับการโฆษณามากเกินไป เพื่อโฆษณาเพียงอย่างเดียว โดยไม่มีเนื้อหาอย่างอื่นเลย
  • เว็บไซต์ที่เกี่ยวกับ ยา และ อุปกรณ์การแพทย์ที่ผิดกฎหมาย
  • เว็บไซต์ Spam Keyword
  • เว็บไซต์เนื้อหาที่ผิดกฎหมายละเมิดลิขสิทธิ์ หรือ ปลอมแปลงสินค้า
  • เว็บไซต์อาวุธสงคราม
  • เว็บไซต์เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
  • เว็บไซต์บุหรี่


กฎ กติกา ในการวางโฆษณา Google AdSense
ในแต่ละหน้าเว็บเพจ สามารถวางโฆษณาได้ ดังนี้
  • วางโฆษณาแบบโฆษณาเกี่ยวข้องเนื้อหาของเว็บไซต์ ได้สูงสุด 3 หน่วยโฆษณา (Ads Unit)
  • วางโฆษณาแบบโฆษณาเกี่ยวข้องเนื้อหาของเว็บไซต์ แบบลิงค์ ได้ 3 หน่วยโฆษณา (Link Unit)
  • วางโฆษณาจากการค้นหาเว็บไซต์ ได้สูงสุด 2 อัน (Search Box)
  • วางโฆษณาจากการแนะนำบริการ ได้ 3 อัน ห้ามซ้ำกัน


ข้อห้าม ในการวางโฆษณา Google AdSense

  • ห้ามทำการดัดแปลง Code โฆษณาอย่างเด็ดขาด ทุกกรณี
  • ห้ามคลิกโฆษณาเอง หรือ บอกให้เพื่อนๆ ช่วยมาคลิก หรือการกระทำในทำนองนี้
  • ห้ามเขียนคำเชิญชวน หรือ ข้อความให้ช่วยคลิก หรือเขียนบอกให้ผู้เข้าชมเว็บไซต์ให้คลิก ตัวอย่างเช่น "เพื่อความอยู่รอดของเว็บไซต์ โปรดช่วยคลิกด้วย" ให้ใช้ได้แค่ "sponsored links" หรือ "advertisements" เท่านั้น
  • ทำเนื้อหาอย่างเดียว แล้ว Copy ออกมาเป็นหลาย ๆ หน้า
  • ห้ามวางโฆษณา Google AdSense ในหน้า Download
  • ห้ามวางโฆษณา Google AdSense ในหน้าที่ไม่มีข้อมูลอะไรเลย
  • ห้ามวางโฆษณา Google AdSense ในอีเมล์
  • ห้ามวาง Google Adsense ในหน้าที่ทำขึ้นมาเพื่อ เฉพาะเจาะจงที่จะให้แสดง Google Adsense
  • ห้ามวาง Google AdSense ในโฆษณา Pop Up, Pop Under
  • ห้ามวาง Google AdSense ใน Soft Ware เพื่อบังคับให้คลิกโดยอัตโนมัติ หรือ เว็บไซต์รับจ้างคลิกโฆษณา
  • ห้ามวาง Google AdSense ใน Soft Ware เพื่อทำการโปรโมทเว็บของคุณ เช่น Web Promotor
  • หน้าเว็บเพจที่วาง Google AdSense ต้องไม่มีส่วนใดส่วนหนึ่งไปปิดบัง หรือ ทำให้ไม่สามารถมองเห็นโฆษณาทั้งหมด หรือ ทำ Code โฆษณาให้ไม่สามารถมองเห็นโฆษณาได้ทั้งหมด โดยใช้เทคนิค เช่น สีตัวอักษรเป็นสีเดียวกับพื้นหลังเว็บไซต์ เป็นต้น
  • เครื่องหมายการค้าของ Google อย่าเอาแบนเนอร์ หรือโลโก้ ของ Google มาใช้โดยเด็ดขาด
  • ถ้าทาง Google ส่งอีเมล์แจ้ง หรือ ตักเตือนในสิ่งที่ไม่ถูกต้อง จากการใช้งาน Google AdSense ให้รีบตอบกลับทางอีเมล์โดยด่วน


เป็นอย่างไรบ้างครับ กับ กฎ กติกา ของ AdSense ที่ต้องทำความเข้าใจ ไม่ยากเกินไปนะครับ
ผมได้อธิบายมายาวพอสมควรเกี่ยวกับ AdSense เป็นการศึกษาเส้นทางก่อนการเดินทางจริง
หากเหนื่อยนักก็พักสายตาก่อน...ดื่มน้ำเย็นๆ สักแก้ว แล้วเข้าสู่การเรียนรู้การสร้างเงินลำดับต่อไป คลิกด้านล่างนี้เลยครับ
เพื่อเข้าสู่ Step 2 :เตรียมเสบียงก่อนเดินทาง

Step 2 : เตรียมเสบียงก่อนเดินทาง



Step 2 : เตรียมเสบียงก่อนเดินทาง

ใน Step 2 นี้ จะได้เรียนรู้ในการเตรียมเสบียงว่า ในการทำธุกิจ Online กับ Google AdSense นั้น


สิ่งที่คุณต้องมีคือ
 1. ต้องมี Gmail >> สมัครฟรี
 2. ต้องมีเว็บไซต์/หรือบล็อก (คุณสามารถเรียนรู้วิธีสร้างเว็บไซต์/บล็อกในบทต่อไป) >>> สมัครฟรี


สำหรับผู้ที่ยังไม่มีเว็บไซต์ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมจะสอนวิธีการสมัครใช้งาน เว็บบล็อก (Blog) อย่างละเอียดยิบ ชนิดที่ดูแล้วเข้าใจ สามารถนำไปใช้งานได้เลยครับ


ในการสร้างเว็บไซต์นั้น คุณอาจใช้โปรแกรมอะไรก็ได้ตามความถนัด ในที่นี้ ผมจะเสนอวิธีสร้างเว็บไซต์ง่ายๆ จาก Microsoft Word, Dreamweaver, Namo WebEditor เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้ที่สนใจ


แต่อย่างไรก็ตาม วิธีสร้างเว็บที่ง่ายดายที่สุด สำหรับนำไปสมัครกับ Google ผมขอแนะนำให้ใช้ Blogger เพราะเป็นบริการหนึ่งจาก Google และการใช้งานไม่ยุ่งยากอะไรมากนักครับ


ขั้นตอนการเตรียมเสบียงก่อนเดินทาง


 1. วิธีสมัคร Gmail.com ฟรีๆ
 2. วิธีสมัคร Blogger.com ฟรีๆ
      2.1 วิธีสร้างเว็บบล็อกเบื้องต้น
      2.2 วิธีค้นหาบทความ / รูปภาพ มาใส่บล็อก
      2.3 เทคนิคการใส่ลิ้งก์ (Links) ให้กับบล็อก
      2.4 เทคนิคการตกแต่งบล็อก
 3. วิธีสร้างเว็บไซต์ด้วย Microsoft Word
 4. วิธีสร้างเว็บไซต์ด้วย Dreamweaver
 5. วิธีสร้างเว็บไซต์ด้วย Namo WebEditor

Step 2_1 : ขั้นตอนการสมัคร Gmail



Step 2_1 : ขั้นตอนการสมัคร Gmail

ขั้นตอนการสมัคร Gmail ไม่มีอะไรยุ่งยากมากนัก เพียงแต่กรอกข้อมูลตามที่แบบฟอร์มเท่านั้นครับ เพื่อไม่เสียเวลา ทำตามขั้นตอนดังนี้เลยครับ


1. คลิกที่ >> Gmail หรือ http://www.gmail.com







2. จากนั้นคลิกที่ ลงทะเบียน Gmail [Sing Up For Gmail] จะปรากฎหน้าต่าง สร้างบัญชี







3. พิมพ์รายละเอียดตามที่ปรากฎให้ครบ (เป็นภาษาอังกฤษนะครับ)


First name : ชื่อ ใส่ชื่อเราลงไป
Last name : นามสกุล ใส่นามสกุลเราลงไป
Desird Login Name ชื่อการเข้าสู่ระบบที่ต้องการ
Check availability! คลิกเพื่อตรวจสอบว่ามีผู้ใช้แล้วหรือยัง


Choos a password รหัสผ่าน
Re-enter a password กรอกรหัสผ่านอีกครั้ง
Security Question เลือกคำถามที่ต้องการ
Answer คำตอบ
Secondary email เมล์สำรองเพื่อแจ้งปัญหา





Location เลือกเป็น ราชอาณาจักรไทย
Word Verification พิมพ์คำตามที่ปรากฎในรูป
คลิก I accept Create my account (ฉันยอมรับโปรดสร้างบัญชีของฉัน)


เป็นอันเสร็จขั้นตอนการสมัคร Gmail ครับ


เป็นอย่างไรบ้างครับกับการสมัคร Gmail ไม่ยากอย่างที่คิดนะครับ


ส่วนวิธีการใช้งานก็ง่ายเอามากๆ ครับ มีให้เลือภาษาไทยด้วย สำหรับผู้ที่ไม่ค่อยถนัดใช้งานภาษาอังกฤษ


นับว่าคุ้มค่ากับการสมัคร Gmail เพราะเขามีเนื้อที่ให้มากถึงกว่า 2880 MB หรือ 2 Gb. และเนื้อที่ของ Gmail นี้ยังสามารถเพิ่มขึ้นได้เรื่อยๆ โดยไม่มีที่สิ้นสุด

Step 2_2 : ขั้นตอนการสมัคร Blogger

Step 2_2 : ขั้นตอนการสมัคร Blogger

ขั้นตอนการสมัคร Blog สิ่งสำคัญต้องสมัคร Gmail มาเรียบร้อยก่อนจึงจะสมัคร Blog เพื่อความสะดวกในการเรียกใช้งานครับ

ในบทนี้ จะได้สอนถึงการสร้างเว็บบล็อกเพื่อใช้งานเกี่ยวกับธุรกิจ Online ด้วย Google AdSense โดยบล็อกที่จะสร้างนี้ ต้องมีเนื้อหาเป็นภาษาอังกฤษก่อนนะครับ เพื่อที่จะเอาเว็บบล็อกอันนี้ไปสมัครกับ Google AdSense ให้ผ่านก่อน

ไม่ต้องตกใจนะครับสำหรับผู้ที่ไม่ชำนาญการเรื่องภาษาอังกฤษ หรือไม่รู้ภาษาอังกฤษเลยอย่างกระผม ก็สามารถทำเว็บภาษาอังกฤษได้

ส่วนรายละเอียดและวิธีการ จะเริ่ม ณ บัดนี้ครับ
1. คลิกที่ >> Blog หรือไปที่ http://www.blogger.com



2.คลิกที่ >> สร้างเว็บบล็อกของท่านเดี๋ยวนี้ จะปรากฎดังรูปด้านล่าง



3. ให้ใส่รายละเอียดดังนี้
ที่อยู่อีเมล์ ใส่ Gmail ที่ได้สมัครไว้จากบทเรียนที่แล้ว
Enter Password ใส่รหัสผ่าน
พิมพ์รหัสผ่านอีกครั้ง ใส่รหัสผ่านอีกครั้งให้เหมือนกัน
Display name ตั้งชื่อที่จะให้แสดงตอนโพสเว็บบล็อก
การรับรองความถูกต้องของคำ พิมพ์ตามอักษรที่ปรากฎให้ถูกต้อง
Acceptance for Terms ติ๊กให้มีเครื่องหมายถูก
คลิก >> ดำเนินต่อไป

4. จากนั้นให้ ตั้งชื่อเว็บบล็อกของท่าน ตัวอย่างด้านล่าง



ชื่อเว็บบล็อก ให้ตั้งชื่อเว็บบล็อกที่ต้องการ
ที่อยู่เว็บบล็อก ใส่ที่อยู่เว็บบล็อกตามต้องการ
จากนั้นคลิก >> ตรวจสอบความพร้อมใช้งาน
เพื่อตรวจเช็คดีว่ามีคนใช้แล้วหรือยัง

จากนั้นคิก >> ดำเนินต่อไป

5. จากนั้นจะเข้าสู่การเลือกแม่แบบว่า เราต้องการเว็บบล็อกรูปแบบไหน มีให้เลือกมากมายตามต้องการ




เมื่อคลิกเลือกแม่แบบได้ตามต้องการแล้ว คลิกที่ >> ดำเนินต่อไป

6. เพียงแค่นี้ คุณก็สามารถมีเว็บบล็อกเป็นของตัวเองไว้ใช้งานสำหรับทำเงินได้แล้วครับ



เป็นอย่างไรบ้างครับกับการสมัครเว็บบล็อก Blogger.com ไม่ยากอย่างที่คิดนะครับ

ส่วนวิธีการใช้งาน สามารถศึกษาได้ในบทเรียนต่อไปครับ

Step 2_3 : วิธีใช้งาน Blogger สร้างเว็บบล็อก



Step 2_3 : วิธีใช้งาน Blogger สร้างเว็บบล็อก

ในบทเรียนนี้ เราจะได้ศึกษาถึงวิธีการใช้งานเว็บบล็อกกันว่า วิธีการเพิ่มเนื้อหารายละเอียดเขาทำกันอย่างไร
จากบทเรียนที่แล้วได้สร้างเว็บบล็อกเอาไว้ถึงขึ้นตอน บล็อกของคุณถูกสร้างแล้ว (ด้านล่าง)





จากนั้นให้เราคลิกที่ เริ่มต้นส่งบทความ
จะปรากฎหน้าต่างด้านล่าง ซึ่งจะให้เราใส่ข้อความ / รูปภาพ ตามความต้องการโดยการคลิกที่ สร้าง





-ชื่อเรื่อง (คือหัวข้อเรื่องที่เราต้องการ)
-และมีพื้นที่สำหรับการใส่ข้อความ, รูปภาพเป็นต้น


หากใครที่ปิดขั้นตอนการทำงานไปแล้วจากบทที่ Step 2_2 แล้ว ก็สามารถ Login เข้ามาใหม่ได้ที่ >> Blog หรือเข้าไปที่ http://www.blogger.com จะปรากฎหน้าต่างด้านล่างนี้







ให้เราพิมพ์ E-mail ที่เราได้สมัครไว้กับ Gmail ที่

  • รหัสผู้ใช้ [xxxxxxxxx@gmail.com]
  • รหัสผ่าน [xxxxxxxxxxxx]



จากนั้นคลิกที่ >> ลงชื่อผู้ใช้งาน
จะปรากฎหน้าต่างด้านล่าง ให้คลิกที่ บทความใหม่ ก็จะเข้าสู่หน้าต่างสร้างดังรูปที่ 2 จากด้านบน





ในบทเรียนต่อไปจะได้เรียนรู้วิธีค้นหาบทความ/รูปภาพ มาใส่เว็บบล็อก พร้อมเทคนิคดีๆ อีกมากมายครับ

Step 2_4 : ขั้นตอนการหาบทความ/รูปภาพมาใส่เว็บบล็อก



Step 2_4 : ขั้นตอนการหาบทความ/รูปภาพมาใส่เว็บบล็อก

มาเริ่มสร้างสรรผลงานกันต่อ ในส่วนของการนำข้อความมาใส่เว็บบล็อกของเรานั้น แนะนำให้ใช้เป็นภาษาอังกฤษก่อนนะครับ (เรียกว่าเอาเว็บบล็อกอันนี้ไปสมัคร AdSense ให้ผ่านก่อน เมื่อผ่านแล้วจะมาสร้างเว็บที่มีเนื้อหา ภาษาไทยก็ได้ครับ ย้ำว่า ครั้งแรกต้องเป็นภาษาอังกฤษให้ผ่านก่อน) ให้มีเนื้อหาพอสมควร ไม่น้อยจนเกินไป


เพราะว่าเราจะต้องใช้เว็บบล็อกอันนี้ในการขอสมัครใช้งานจาก Google AdSense เพื่อที่จะนำโฆษณามาทำมาหากินได้
ดังนั้นเนื้อหาต่างๆ ที่เป็นภาษาอังกฤษสามารถหาได้จากที่ไหน?
ผมได้รวบรวมพอเป็นตัวอย่างด้านล่างนี้เลยครับ


>> บทความภาษาอังกฤษฟรีๆ ที่นี่เลยครับ [>>คลิกเลือกบทความภาษาอังกฤษ<<]


ให้ทำการคัดลอกเนื้อหาภาษาอังกฤษ มาวางไว้ในเว็บบล็อกของท่าน


หรือท่านจะหาบทความ เนื้อหารายละเอียดต่างๆ ตามเว็บต่างๆ หนังสือพิมพ์ ฯลฯ ก็ได้ตามความต้องการครับ
เนื้อหาเว็บอย่างน้อยต้องไม่ต่ำกว่า 2 หน้ากระดาษ A4 เพื่อให้ทาง Google วิเคราะห์ เว็บไซต์ ถ้าเนื้อหาน้อยเกินไป อาจจะไม่ผ่าน เนื่องจากเป็นเว็บไม่ได้มาตรฐาน


ถ้าหากคุณใช้เนื้อหาที่เป็นภาษาไทย ผมไม่แน่ใจว่าจะสามารถสมัครผ่านหรือเปล่า แต่ถ้าเป็นเนื้อหาภาษาอังกฤษ และมีรายละเอียดมากพอสมควร ผมมั่นใจว่าต้องผ่านแน่นอนครับ ฟันธง


สิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งที่ควรคำนึงถึง คือ แหล่งที่มาของเนื้อหา ให้เราบอกแหล่งที่มาด้วยจะดีมาก


หรือหากต้องการเนื้อหาภาษาอังกฤษฟรีๆ สามารถเข้าไปหาได้ที่นี่เลยครับ
http://vimarndin.blogspot.com/
http://www.goarticles.com/
http://www.contentmart.com/
http://www.superfeature.com/
http://www.freshcontent.net/
ฯลฯ


เว็บไซต์ที่รวบรวมมานี้ อาจถูกใจหลายๆ ท่านเพราะ สามารถเลือกเรื่องที่เกี่ยวกับสิ่งที่ท่านสนใจได้ ขอให้เราเลือก ในเรื่องที่เราสนใจจะเป็นการดี เพราะเราจะสนุกกับมัน
เมื่อได้เนื้อหาแล้ว ก็นำมาวางในพื้นที่สำหรับใส่เนื้อหา


ขั้นตอนต่อไป เป็นการนำรูปมาใส่เว็บบล็อกของท่าน
เพื่อเพิ่มความสวยงามน่าสนใจมากยิ่งขึ้น วิธีการนำรูปภาพมาใส่เว็บบล็อกสามารถทำได้ดังนี้





คลิกที่ลูกศรชี้ [คลิกที่นี่เพื่ออัพโหลดรูปภาพ] เป็นไอคอนรูปภาพเล็กๆ เมื่อนำเม้าส์ไปวางด้านบนจะขึ้นข้อความว่า เพิ่มรูปภาพ
จากนั้นจะขึ้นหน้าต่างด้านการจัดตำแหน่งของรูปภาพ





จากนั้นคลิกที่ >> Browse... เพื่อเลือกรูปภาพจากเครื่องคอมพิวเตอร์ของคุณ
คลิกที่รูปแบบ (จะให้จัดรูปภาพไว้ตำแหน่งไหน
คลิกเครื่องหมายถูกที่ [ / ] ข้าพเจ้ายอมรับข้อกำหนดในการให้บริการ
คลิก >> อัพโหลดรูปภาพ





เสร็จขึ้นตอนการอัพโหลดรูปภาพ คุณสามารถคลิกที่รูปภาพแล้วลากไปยังตำแหน่งที่ต้องการได้ครับ
เว็บไซต์ของคุณก็จะมีทั้งข้อความและรูปภาพน่าสนใจมากยิ่งขึ้น





จากนั้นคลิกที่ >> เผยแพร่ (ปุ่มแดงด้านล่าง) เพื่อเสร็จสิ้นการจัดทำเว็บบล็อก




คลิกที่ >> View Blog (ดูบล็อก) เพื่อตรวจดูเว็บบล็อกของเรา







เครื่องมือต่างๆ ท่านสามารถศึกษาได้เพิ่มเติม เพราะว่าเป็นภาษาไทยหมด เพียงเท่านี้คุณก็ได้มีเว็บบล็อกเพื่อสมัครเป็นของตนเองแล้ว


คุณสามารถที่จะสร้างเว็บบล็อกได้ไม่จำกัดหน้า สามารถตั้งหัวข้อใหม่ได้ไม่จำกัด ดังนั้นคุณสามารถที่จะเพิ่มเนื้อหา รายละเอียดต่างๆ ให้กับเว็บบล็อกของคุณให้น่าสนใจได้ตลอดเวลา


ตัวอย่างเว็บบล็อกที่เพิ่มเนื้อหาหลายๆ หัวข้อให้น่าสนใจ
>>http://freearticleonline.blogspot.com/


เป็นอย่างไรบ้างครับกับการเรียนรู้การสร้างเว็บบล็อก Blogger.com ไม่ยากอย่างที่คิดนะครับ
ตอนนี้เรามีเครื่องมือที่จะเดินทางกันแล้ว คุณพร้อมที่จะเดินทางกันต่อหรือยังครับ?